March Cool Industry

ทำโยเกิร์ตแบบมือโปรด้วย ‘หม้อต้มควบคุมอุณหภูมิ’ และ ‘Cooling Bath’ จาก March Cool

วันนี้มาสอนทำโยเกิร์ตค่ะ แต่ไม่ใช่ทำแบบเดิมๆ เท่านั้นนะคะ เป็นการทำแบบมีตัวช่วยที่จะพาให้โยเกิร์ตทำกินเองที่บ้าน กลายเป็นโยเกิร์ตที่สร้างรายได้ให้กับคุณได้ด้วย แต่ก่อนอื่น มาดูวิธีทำโยเกิร์ตแบบเดิมๆ กันก่อน

ปกติแล้วหากจะทำโยเกิร์ตก็ใช้เครื่องปรุงแค่ 2 อย่าง คือ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 กระปุกเล็ก นมสด 1 ลิตร จากนั้นเริ่มต้นที่ต้มนมในหม้อจนเดือดแล้วปิดไฟ รอให้นมเย็นลงด้วยการวัดความร้อนง่ายๆ แค่จุ่มนิ้วลงในนมสัก 5 วินาที ถ้ารู้สึกทนไหวก็คือใช้ได้

จากนั้นตักโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงในถ้วยสัก 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วตักนมในอุ่นแล้วลงไปผสม 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ผสมกันจึงเทกลับไปผสมกับนมที่เหลือในหม้อ แล้วจึงปิดฝา ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง  7-10 ชั่วโมงจนโยเกิร์ตขึ้นเต็มที่ จึงนำเข้าแช่ในตู้เย็น (ตรงจุดนี้ถ้าหมักทิ้งหลายชั่วโมงจะยิ่งทำให้ได้รสชาติที่เปรี้ยวยิ่งขึ้น) พอครบเวลาก็กินได้เลย

แต่ถ้าอยากได้เป็นกรีกโยเกิร์ตก็ทำต่อ แค่นำผ้าขาวบางสองชั้นห่อโยเกิร์ต กรองเอาน้ำในโยเกิร์ตออกไป ราว 3-4 ชั่วโมง ก็จะเป็นกรีกโยเกิร์ตนุ่มๆ แต่ถ้ากรองน้ำออกไปถึง 6 ชั่วโมง เนื้อกรีกโยเกิร์ตที่ได้จะใกล้ครีมชีส จิ้มกินกับขนมปัง ทำเป็นไส้แซนด์วิช  หรือทำกรีกโยเกิร์ตเสิร์ฟพร้อมผลไม้เก๋ๆ สวยและได้สุขภาพอีกด้วย

เอาละคะ ทีนี้ถ้าสงสัยว่า ทำอย่างมือโปรด้วย 2 ตัวช่วยจาก March Cool คือยังไง เฉลยก็คือ ต้มนมด้วย หม้อต้มควบคุมอุณหภูมิแบบสองชั้น ที่ให้ความร้อนโดยใช้น้ำร้อนเป็นตัวกลางถ่ายเทความร้อนไปสู่หม้อชั้นใน โดยสามารถผลิตได้มากถึง 30 ลิตรต่อรอบเลยนะคะ

เมื่อต้มจนได้ที่ก็นำนมที่ได้จากหม้อต้มมาลดอุณหภูมิเองแล้วจึงเติมเชื้อโดยใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติเช่นเดียวกับการทำเองทุกขั้นตอน แต่ถ้าอยากได้ความแม่นยำละก็  แนะนำให้เลือกใช้ Cooling Bath ตัวช่วยในการลดอุณหภูมิที่ March Cool คิดค้นระบบให้ทำความเย็นได้ในเวลาสั้น และยังคงอุณหภูมิได้แม่น ทำให้สามารถควบคุมมาตรฐานของการผลิตในแต่ละครั้งที่ผลิตได้อย่างเสถียร ซึ่งข้อดีของการคุมได้ดีคือทำให้เชื้อโตได้ดี รสชาติจะใกล้เคียงกันในทุกรอบ โดยไม่ต้องเวลาหรือคอยลุ้นอุณหภูมิภายนอก

แค่มีตัวช่วยมือโปร 2 ตัวนี้จาก March Cool โยเกิร์ตที่ลูกค้าออเดอร์มากก็ไม่ต้องรอนานอย่างเคยแล้วล่ะค่ะ