เว็บไซต์ chefspencil.com รวมเมนู ไอศกรีมที่แพงที่สุดในโลก ไว้ค่ะ March Cool เลยคัดมาให้อ่านกัน 5 อันดับต้น เผื่อว่าใครจะนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการทำไอศกรีมสูตรของตัวเองหรือเก็บไว้เป็น ไอเดียเสิร์ฟไอศกรีม เมื่อเปิดร้าน พร้อมแล้วไปดูเมนูแรงที่แพงถึง 9.85 ล้านเหรียญสหรัฐ กันเลยค่ะ
Strawberries Arnaud โดย Arnaud’s Restaurant นิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ครองอันดับหนึ่งไปอย่างไม่ต้องสงสัยด้วยราคา 9.85 ล้านเหรียญสหรัฐ เมนูนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสตรอเบอร์รี่ฉ่ำๆ กับไอศกรีมวานิลลาเนื้อเนียน พร้อมไวน์ เครื่องเทศ มิ้นต์ ความพิเศษคือ เมนูนี้เสิร์ฟพร้อม fancy cocktail พร้อมแชมเปญ Cristal และทองคำเปลวมูลค่า 24 กะรัตที่กินได้!
แต่สิ่งที่ทำให้ราคาหลักล้านดอลลาร์คือแหวนเพชร Royal Blue ขนาด 10.06 กะรัต ที่จัดมาเคียงกัน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าไม่ได้กำลังจะทุ่มเงินหลายล้านซื้อแหวนหมั้นเพชรละก็ ออเดอร์นี้ราคาก็ดิ่งลง เท่ากับการกินของหวานทั่วไปนั่นละค่ะ
The Frrozen Haute Chocolate โดย Serendipity 3 นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไอศกรีมซันเดย์ Frrrozen Haute Chocolate ครองตำแหน่งของหวานที่แพงที่สุดในโลกนี้ เปิดตัวครั้งแรกในเมนูของร้านอาหาร Serendipity 3 ในนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยมีราคาอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์ โดยในเมนูนี้เสิร์ฟไอศกรีมช็อกโกแลตรสเข้มข้นผสมกับโกโก้ที่แพงที่สุดในโลก 14 ชิ้น มาในแก้วที่บุด้วยทองคำ 23 กะรัต ที่กินได้ 5 กรัม พร้อมทรัฟเฟิลแสนอร่อยจาก Knipschildt Chocolatier
และถ้าสั่งเมนูนี้ ไม่ได้แค่ความอร่อย แต่จะได้สร้อยข้อมือทอง 18 กะรัตพร้อมเพชรสีขาว 1 กะรัต พร้อมช้อนทองประดับเพชรสีขาวและสีช็อกโกแลตเป็นของที่ระลึก
Byakuya โดย Cellato โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
เมนูนี้อ่านออกเสียงว่า “เบียคุยะ” เป็นไอศกรีมคำเล็กๆ ในปริมาณเพียง 130 มล. หรือ 4.4 ออนซ์ เกิดจากการผสมผสานรสชาติของเห็ดทรัฟเฟิลขาวนำเข้าจากเมือง Alba ประเทศอิตาลี ชีส Parmigiano Reggiano และกากสาเก ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่ยอดเยี่ยมจากกระบวนการผลิตสาเกของประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้สนนราคาที่ 873,400 เยน หรือ 6,696 เหรียญสหรัฐ !
ย้ำชัดๆ อีกครั้งว่า เมนูนี้ มีเพียงไอศกรีมเท่านั้น ไม่มีของแถมหรือมาพร้อมเครื่องประดับสุดหรูแต่อย่างใด!!
Bear Extraordinaire โดย Baccarat Hotel ในแมนฮัตตัน นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไอศกรีม Bear Extraordinaire ขายให้กับลูกค้าเพียงในนิวยอร์กด้วยราคา 1,500 ดอลลาร์ โดยเชฟทำขนมชื่อดัง Rosario Wakabayashi เมนูนี้เสิร์ฟในชามคริสตัล “Zoo Bear” ของ Baccarat ที่มีหมายเลขกำกับพร้อมชื่อนักออกแบบ โดยมีมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ และทันทีที่เปิดฝาชามคริสตัลออก ก็จะพบกับไอศกรีมสุดหรูที่ประกอบด้วยวานิลลามาดากัสการ์นำเข้า ไวท์ช็อกโกแลต แบล็คทรัฟเฟิลครัมเบิ้ล ดาร์กช็อกโกแลต และโกโก้นิบส์สีทอง (Cacao nibs คือเนื้อด้านในของเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการหมักและคั่วจนมีสีน้ำตาลเข้ม มีรสชาติขมแบบช็อกโกแลตแท้) ราดซอสแชมเปญ hibiscus, เมอแรงค์ citrus และใบไม้สีทองและสีเงินที่กินได้
Golden Opulence Sundae โดย Serendipity 3 นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
แม้จะพร้อมจ่าย 1,000 ดอลลาร์ แต่จะเพลิดเพลินสุดหรูไปกับเมนูนี้ได้ ต้องออเดอร์ก่อนล่วงหน้า 48 ชั่วโมง คือกติกาแรกที่ห้ามลืม และทันทีที่ถ้วยแก้วคริสตัล Baccarat Harcourt พร้อมช้อนทองคำวางตรงหน้า สิ่งที่จะได้ลิ้มรสคือ ความเข้มข้นของ Amedel Porcelana ช็อคโกแลตอิตาลีที่แพงที่สุดในโลก ราดด้วยน้ำเชื่อมช็อคโกแลตที่ประดับด้วยชิ้นช็อคโกแลต Chuao อันหอมหวานที่มาจากเมล็ดโกโก้ในบริเวณชายฝั่งทะเลของเวเนซุเอลา ตกแต่งด้วยผลไม้หวาน อัลมอนด์สีทอง เชอร์รี่ marzipan และ ช็อกโกแลตทรัฟเฟิล
ก่อนกลับบ้าน อย่าลืมหยิบแก้วคริสตัล Baccarat Harcourt ไปด้วย เพราะนี่คือ ของที่ระลึกล้ำค่าสำหรับลูกค้าที่ออเดอร์เมนูนี้
ได้ไอเดียเมนูเด็ดไปไม่มากก็น้อยใช่ไหมค่ะ March Cool เชื่อว่าเมืองไทยก็มีวัตถุดิบเจ๋งๆ ที่สร้างมูลค่าได้มากมาย ถ้าสร้างสรรค์แล้วอย่าลืมบอกต่อเราด้วยนะคะ